เก็บได้ 3 คะแนน จาก 2 เกมที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกมนี้กุนซือ เป๊ป กวาดิโอล่า จัดทีมในระบบ 4-3-3 ไล่จากแผงมิดฟิลด์ เควิน เดอ บรอยน์ ปั้นเกมร่วมกับ แบร์นาโด้ ซิลวา และ โรดรี้ ขยับขึ้นไปที่แนวรุกวาง ฟิล โฟเด้น ลงประสานงานกับ แจ็ค กรีลิซ และ ริยาด มาห์เรซ คลับ บรูซ ของกุนซือ ฟิลิเป้ เคลเมนต์ เก็บได้ 4 คะแนนจาก 2 เกมที่ผ่านมา เกมนี้พวกเขาลงสนามในระบบ 4-4-1-1 ไล่จากแนวรุก ชาร์ล เด เคเตเลียร์ ยืนเป็นหน้าเป้า ส่วน ฮานส์ วาเนเคน ยืนเป็นหน้าต่ำ ขยับลงมาตรงกลาง เอเดอร์ บาลานต้า คุมเกมร่วมกับ แมตส์ ริทส์ ขนาบข้างทางริมเส้นด้วย นาโอ แลง และ คามาล โซวาห์
ฟุตบอลยูฟ่า แชมป์เปียนลีก 2021/22 คลับ บรูซ พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
นาที 30 : บอลยาวๆจากกลางสนามของ ฟิล โฟเด้น โยนลึกมาถึงหน้าเขตโทษ เจา คานเซโล่ วิ่งสอดมาเอาบอลลงด้วยอก ปล่อยบอลเข้าหน้ากรอบ 6 หลา แล้วจิ้มผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไปง่ายๆ ส่ง “ทัพเรือใบ” ขยับออกนำ 1-0 นาที 43 : จังหวะที่ โรดรี้ พยามยามเคาะชิ่งวันทัชกับ เดอ บรอยน์ และต่อด้วย มาห์เรซ กองหลังสอย มาห์เรซ ล้มลงในเขตโทษ กรรมการให้เป็นจุดโทษ และเป็น ริยาด มาห์เรซ ที่ลุกมาซัดเองไม่พลาด “ทัพเรือใบ” ขยับหนี 2-0 นาที 52 : บอลที่ข้างสนามฝั่งขวา 26 หลา มาห์เรซ เคาะเข้าหน้าเขตโทษฝั่งขวาให้ เดอ บรอยน์ เบิ้ลจังหวะเดียว ทะลุช่องให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ หลุดเข้าไปยิง ที่ระยะ 12 หลา เข้าประตูเรียบร้อย “ทัพเรือใบ” 3 -0 นาที 67 : บอลจากกลางสนาม จ่ายขนานเส้นขึ้นไปทางซ้าย ราฮีม สเตอร์ลิ่ง รับบอลที่ระยะ 36 หลา พาลากไปถึงหน้าเขตโทษฝั่งซ้าย แล้วปาดเข้ากลางให้ โคล พาลเมอร์ แตะด้วยขวา แล้วปั่นโค้งๆด้วยซ้าย บนเส้น 18 หลากลางๆประตู บอลโค้งมุดเสาซ้ายมือเข้าไปอย่างงาม “ทัพเรือใบ” หนีห่าง 4-0
นาที 81 : คลับ บรูซ ขึ้นเกมบุกมาถึงข้างเขตโทษฝั่งขวา จ่ายยัดเข้าในเขตโทษ สะกิดต่ออีก 1 ที แล้วบอลไหลไปเข้่ทาง ฮานส์ วาเนเคน ได้ซัดจ่อๆที่หน้ากรอบ 6 หลา เป็นประตูให้เจ้าบ้าน ไล่มาห่างๆ 1-4นาที 84 : บอลยาวๆจากกลางสนามของ เฟอร์นานดินโญ่ ข้ามหัวแนวรับ คลับ บรูซ จังหวะนี้ ริยาด มาห์เรซ วิ่งสอดไปรับบอลที่หน้าเขตโทษ แล้วลากเข้าไปล่อเป้าหน้ากรอบ 6 หลา เรียบร้อย เป็นประตูที่ 2 ของเขาในเกมนี้ และเป็นประตู 5-1 ของฝั่งทีมเยือน จบเกม 90 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะไป 5-1 เก็บสามคะแนนเต็ม มีเพิ่มเป็น 6 คะแนน อยู่อันดับ 2 ตามหลัง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 1 คะแนน ส่วน คลับ บรูซ มี 4 คะแนนเท่าเดิม อยู่ที่ 3
ติดตามนัดการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่าเเชมป์เปี้ยนที่เข้มข้นที่นี่ tagnumerique
- ไพ่เสือมังกร เทคนิคการสร้างเงินและกำไร
- 3 จุด ที่อาจจะทำให้ วัตฟอร์ด ยัดความปราชัยให้แก่หงส์ได้
- 3 แข้ง หงส์แดง เล็งดึงเข้ามา เสริมทัพ
- ถุงเท้าฟุตบอล ทำไมถึงแพง
- ไฮโลออนไลน์ กับอัตราการจ่ายเงินที่ควรรู้
- ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก โรแบร์ตู ฟีร์มีนู แฮตทริค ! ลิเวอร์พูล ทิ้งบอม วอตฟอร์ด 5-0
- วูล์ฟแฮมป์ตัน ตาม 2 เม็ด ! รัวยิง 10 นาทีท้าย แซง แอสตัน วิลล่า 3-2 ขึ้นที่ 8
- โทมัส ทูเคิล แจ้งอาการ โรเมลู ลูคากู , ทิโม แวเนอร์ พลาดอย่างน้อย 2 เกม
นัดบิ๊กแม็ตช์สุดมันส์ หงส์ ผีเตะกันเดือด เทพโมคนดีเหมาสามลูก ผีโดนยำเละ
เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมานั้นเป็น นัดบิ๊กแม็ตช์สุดมันส์ เลยก็ว่าได้เนื่องจากเป็นการเจอกันของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เปิดรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดต้อนรับลิเวอร์พลู คู่ปรับตลอดกาลโดยครั้งนี้เป็นผีแดงที่โดนยำเละคาบ้านชนิดไม่เหลือชิ้นดี5-0 โดยเป็นแฮททริคของบังโม นอกจากนั้นแล้วป็อกบายังโดนใบแดงตั้งแต่ครึ่งแรกอีกด้วยเรียกได้ว่าแมนยูกลับไปตกอับแบบน่าอนาถใจอีกรอบส่งผลให้กุนซือของพวกเขา โซลชา นั้นนั่งร้อน ๆ หนาว ๆ แน่นอน โดยแมนยูอยู่ที่อันดับที่เจ็ดของตารางตำแหน่งส่วนลิเวอร์พลูยังคงเป็นผู้นำต่อไป โดยเริ่มครึ่งแรกมาได้แค่4นาทีก็เป็นทีมเยือนที่ขอเริ่มบุกก่อนแต่ดูท่ามีแว่วที่จะเสียประตูตั้งแต่เริ่มโดยเป็นคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ส่งบอลผ่านกราบซ้ายมาให้เมสัน กรีนวู้ด ทำการออกขวาไปให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส แต่ดันทำไม่ดีพอเนื่องจากบอลหลุดออกไป แต่เพียงแค่หนึ่งนาทีเท่านั้นทีมเยือนที่ไม่ขอยอมโดนหยามหน้าก็บุกขึ้นมาแล้วทำประตูแรกได้สำเร็จโดยกองหลังผีแดงที่พลาดเปิดมาให้บังโมทำการจ่ายบอลเข้าเขตโทษมาให้ นาบี เกอิต้า ที่โชว์เดี่ยวเกี่ยวบอลยิงผ่านมือกาวดาบิด เด เคอา พา ตุงตาข่ายได้สำเร็จทำให้ลิเวอร์พลูขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่ห้านาทีแรก ถือว่าเป็นการเเข่งขัน นัดบิ๊กแม็ตช์สุดมันส์ ที่แข่งกันสมกับเป็นคู่ปรับกันเลยที่นี่ และในนาทีที่13ทีมเยือนก็ขอขึ้นนำอีกรอบโดยรอบนี้เป็นความผิดพลาดจากเจ้าบ้านเหมือนเดิมเนื่องจากลุค ชอว์ และแฮร์รี่ แม็กไกว์ นั้นจันหน้ากันเองแล้วเกิดความสับสนทำให้ เกอิต้า ที่เห็นทำการโฉบมาทางขวาให้เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ที่อยู่หน้าประตูปาดมาให้ดีโอโก้ โชต้า ทำการซัดเข้าไปตุงเต็มๆอีกรอบทำให้ลิเวอร์พลูขึ้นมานำอีกลูกเป็น 2-0 จากนั้นอีกสิบนาทีต่อมาเป็นเจ้าบ้านที่ขอโชว์บ้างโดยเป็นสกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ส่งบอลซ้ายมาให้ลุค ชอว์ […]